ได้ฤกษ์ลงสนามฟาดแข้งกันต่อแล้ว สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากหยุดพักแข้ง หลีกทางให้กับโปรแกรมทีมชาติไปร่วมสิบวัน ประเดิมกันที่คู่แรกเป็นลอนดอนดาร์บี้แมทช์ระหว่างทีมอินทรีผงาด”คริสตัล พาเลซ”เจ้าบ้านที่ฤดูกาลนี้ยังสะกดคำว่าชนะใครไม่เป็นเลย เปิดสนาม”เฮทเซิลปาร์ค”ต้อนรับการมาเยือนของจ่าฝูงผู้มาพร้อมสถิติชนะรวดแบบไม่เสียประตูทั้งสามนัด ไก่เดือยทอง”ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอรส์” โดยทั้งคู่ถือว่าเป็นทีมที่ใช้บริการของผู้จัดการทีมคนใหม่ในฤดูกาลนี้เหมือน ๆ กัน คือ”ปาทริค เวเอร่า”ของทางฝั่งเจ้าบ้านและ”นูโน่ ซานโต๊ส”ของทางฝั่งผู้มาเยือน
ทางด้านเรื่องของตัวผู้เล่นนั้น ทีมเจ้าบ้านค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว แดนหน้าจัดเต็มใช้งานสามประสาน”วินฟรีด ซาฮา,คริสเตียน เบนเทนก้า”และ”จอร์แดน อายิว” ส่วนผู้มาเยือนขาดผู้เล่นตัวหลักมากมายแทบทุกขุมกำลัง ทั้งจากอาการบาดเจ็บ,ติดโทษแบน และกรณีต้องกักตัวหลังจากเดินทางไกลไปลงสนามรับใช้ชาติในกลุ่มของนักเตะจากทวีปอเมริกาใต้ ที่สำคัญก็คือดาวยิงตัวเก่งประจำทีม”ซง มึน-ฮง”ที่เจ็บมาจากการรับใช้ชาติจนต้องพักยาวถึงช่วงสิ้นเดือนกันยายนเลยทีเดียว แต่โชคดียังมี”แฮรี่ เคน”ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษที่ลงสนามไล่ล่าประตูให้กับทีมได้ พร้อมส่งแบ๊คขวาตัวใหม่”อีเมอร์สัน”ที่พึ่งซื้อตัวมาจากบาร์เซโลน่าประเดิมสนามทันที
เริ่มเกมส์ขึ้นมา ทั้งคู่เล่นกันได้อย่างค่อนข้างสูสี แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดสามารถสร้างโอกาสทำประตูกันอย่างชนิดจะแจ้งได้ทั้งสองทีม แต่แล้วในนาทีที่ 12 ข่าวร้ายก็มาเยือน”สเปอร์ส”เมื่อ”เอริค ดายเออร์”เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักได้รับบาดเจ็บจากจังหวะเข้าปะทะ จนฝีนเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนตัวเอาสำรอง”โจ โรดอน“ลงมาเล่นแทน จากนั้นจนจบครึ่งแรกทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันอยู่ 0-0 และเป็นทางด้านเจ้าบ้านที่เล่นได้เหนือกว่า สร้างโอกาสยิงประตูได้เจ็ดครั้ง ส่วนสเปอร์ส ไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์สได้แม้แต่ครั้งเดียว
เริ่มครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นแต่อย่างใด และจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเกมส์นี้ก็มาถึง เมื่อเซนเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งได้รับใบเหลืองสองใบติดภายในเวลาห่างกันแค่ห้านาที กรรมการให้ สเปอร์สจึงต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนตั้งแต่นาทีที่ 58 ของการแข่งขัน หลังจากนั้นทีมเจ้าบ้านที่ได้เปรียบเรื่องอขงตัวผู้เล่นที่มากกว่าจึงบุกเต็มกำลัง จนมายิงได้สามลูกรวดจาก”วินฟรีด ซาฮา”สังหารจุดโทษในนาทีที่ 76 และตัวสำรอง กองหน้าคนใหม่ที่พึ่งย้ายมาในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย”อ็อดซอน เอดูอาร์”ที่ลงสนามมาในนาทีที่ 84 และเพียงแค่โอกาสจับบอลครั้งแรกของเขาในเกมส์นี้ก็เป็นการยิงประตูที่สองให้ทีมได้ทันที ก่อนจะมาซัดปิดท้ายอีกหนึ่งลูกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของการแข่งขัน ถือเป็นการเปิดตัวลงสนามนัดแรกให้กับต้นสังกัดใหม่ที่สวยงามยิ่ง ด้วยผลงานการเหมาทำคนเดียวสองประตู
จบเกมส์จึงเป็นเจ้าบ้าน”คริสตัล พาเลซ”ที่เอาชนะ”สเปอร์ส”ไปได้อย่างขาดลอย 3-0 ถือเป็นชัยชนะนัดแรกในฐานะผู้จัดการทีมพาเลซของ”ปาทริค วิเอร่า” อดีตตำนานปืน และทำให้ทีมขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 11ของตารางการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้แล้ว ด้วยผลงานลงสนามสี่นัด ชนะหนึ่ง เสมอสอง แพ้หนึ่งนัด มีห้าคะแนน ส่วนสเปอรส์นั้นผลจากการพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในนัดนี้ ทำให้พวกเขาต้องหล่นจากตำแหน่งจ่าฝูงไปอยู่ที่ 5 ของตาราง มีเก้าคะแนนเท่าเดิม
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวกีฬาสดใหม่
Facebook fanpage : Footballhits98
เว็บข่าวฟุตบอลออนไลน์ : https://footballhits98.com/
Comments