การแข่งขันรอบตัดเชือกในรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกฤดูกาลนี้ต้องยอมรับเลยว่าลิเวอร์พูลไม่ได้เจอกับงานหนักอะไรมากมาย นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาต้องเจอกับบียาร์เรอัล สโมสรจากสเปนที่ไม่ได้น่ากลัวเท่ากับคู่แข่งของแมนซิตี้อย่างเรอัล มาดริดแต่อย่างใด หลายคนจึงมองว่ามีโอกาสสูงไม่น้อยเลยทีเดียวที่ลิเวอร์พูลจะได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของยูฟ่าได้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่าบียาร์เรอัลเป็นสโมสรที่ผ่านสโมสรใหญ่มาแล้วมากมายตลอดเส้นทางการแข่งขันครั้งนี้ แม้แต่ลิเวอร์พูลที่มีความแข็งแกร่งอย่างสุดกำลังยังสามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนเพียงแค่ 2 ประตูต่อ 0 เท่านั้น วันนี้เราจึงจะพามาดูกันว่าการแข่งขันครั้งนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1. โอกาสแรกของลิเวอร์พูล ที่ผ่านมาเจอร์เกน คลอปป์สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เขาสามารถพาทีมคว้าชัยชนะได้ถึง 9 ครั้งจากทั้งหมด 11 ครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นฃฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลยังสามารถเก็บชัยชนะได้มากที่สุดจากการลงแข่งขันแชมป์เปียนลีกที่ผ่านมาอีกด้วย
2. คู่หูแอฟริกัน การแข่งขันในครั้งนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ 2 คู่หูจากทวีปแอฟริกาอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์จากอียิปต์และซาดิโอ มาเน่จากเซเนกัล การแข่งขันในครั้งนี้ซาลาห์สามารถส่งลูกแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงเข้าประตูได้สำเร็จอย่างงดงาม เป็นการทำสำเร็จเป็นครั้งแรกในการแข่งขันแชมป์เปียนลีกฤดูกาลนี้
3. ความเป็นตำนานของกุนซือ นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เจอร์เกน คลอปป์มีความพยายามพาทีมที่ตัวเองคุมอยู่เข้ามาจนถึงรอบรองชนะเลิศในการแข่งขันแชมป์เปียนลีกให้สำเร็จ จนถึงในช่วงเวลาดังกล่าวมันเปรียบเหมือนกับว่าเขาสามารถเก็บชัยชยะให้กับทีมของตัวเองในเกมเหย้าได้ครบทุกนัด
4. เปิดฟอร์มในบ้าน หลังจากที่ลิเวอร์พูลได้ลงแข่งขันในบ้านตัวเองอย่างสนามแอนฟิลด์ไปแล้วถึง 3 นัดในการแข่งขันทุกรายการ นับรวมกันแล้วเพราะว่าพวกเขาสามารถทำได้ถึง 8 ประตูโดยที่ไม่ต้องเสียเลยแม้แต่ประตูเดียว โดยทีมที่พาพวกเขาชนะไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นแมนยูที่พ่ายแพ้ไปด้วยคะแนน 0 ประตูต่อ 4 และเอฟเวอร์ตันที่พ่ายแพ้ไปด้วยคะแนน 0 ประตูต่อ 2
5. สถิติผลงาน เทียบผลงานระหว่างลิเวอร์พูลและทีมคู่แข่งทั้งหมด 3 ทีมจาก 3 การแข่งขันให้หลังมานี้พวกเขาสามารถทำไปได้ถึง 8 ประตู มีโอกาสยิงถึง 51 ครั้ง ยิงตรงกรอบไปแล้วกว่า 14 ครั้ง สามารถผ่านบอลได้ถึง 2,421 ครั้ง และยังสามารถจับบอลในกรอบเขตโทษได้ถึง 119 ครั้งเลยทีเดียว
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : https://footballhits98.com
Comments