การแข่งขันเอฟเอคัพเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาเป็นนัดหยุดโลกเพราะมันเป็นการแข่งขันที่จะชี้ชะตาว่าระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และลิเวอร์พูลใครที่จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้สำเร็จสักทีหลังจากที่พวกเขาเจอกัน 2 ครั้งในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกก็เสมอกันทั้ง 2 ครั้ง การแข่งขันครั้งนี้จำเป็นต้องมีผู้ชนะเพียงแค่คนเดียวและทีมที่สามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จก็คือลิเวอร์พูลด้วยคะแนนกว่า 3 ประตูต่อ 2 หากพิจารณาดูให้ดีการแข่งขันในครั้งนี้แมนซิตี้เป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นอย่างมากเพราะพวกเขามีนักเตะคนดังที่เป็นเดอะแบกของทีมหลายต่อหลายคนได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถลงสนามได้โดยเฉพาะเควิน เดอ บรอยน์ตัวอันตรายประจำแมนซิตี้ที่ในการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวแม้ว่าจะมีชื่อติดเป็นตัวสำรองก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกแมนซิตี้ผลงานไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเพราะพวกเขาปล่อยให้ลิเวอร์พูลทำประตูขึ้นนำถึง 3 ครั้ง แต่หลังจากจบช่วงพักครึ่งแรกพวกเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและทำประตูที่ 1 ได้สำเร็จหลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่นาที และสร้างความกดดันให้กับลิเวอร์พูลอย่างต่อเนื่องด้วยการทำประตูที่ 2 ตามมาแบบติดๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ตอนนี้แมนซิตี้ไม่มีโอกาสลุ้นคว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ดูเหมือนว่ากุนซือประจำแมนซิตี้อย่างเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด
เป๊ป กวาร์ดิโอล่านำทีมลงแข่งขันกับลิเวอร์พูลและต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้จนทำให้แมนซิตี้ต้องจบการแข่งขันเอฟเอคัพไปด้วยรอบรองชนะเลิศเท่านั้น อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยในภายหลังว่าเราได้ทุ่มเททุกอย่างที่เรามีหลังจากที่เกมในช่วงครึ่งแรกย่ำแย่ ครั้งแรกที่เสียประตูลิเวอร์พูลสามารถเล่นลูกเซตพีซได้แข็งแกร่ง ประตูที่ 2 เกิดจากอุบัติเหตุและมันก็เป็นเรื่องยากที่จะกู้สถานการณ์กลับคืนมา แต่ทุกคนก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบในช่วงครึ่งหลัง มันเป็นอุบัติเหตุจากการพยายามผ่านบอล โดยเฉพาะการเกิดกับผู้รักษาประตูของน้องที่มีความสามารถในด้านนี้โดยเฉพาะ แต่เขาจะเรียนรู้ในเหตุการณ์ครั้งนี้เพื่ออนาคตว่าจะต้องทำอย่างไร ตนเองได้พูดคุยกับทีมแล้วแต่ไม่ได้พูดคุยกับเขาเปลี่ยนเป็นการส่วนตัว ถึงอย่างไรก็ตามเขาเป็นคนที่แข็งแกร่ง ในช่วงครึ่งหลังเราเล่นได้ดีและมีโอกาสตีเสมอ รอพบกับการแข่งขันที่ยากเพราะต้องเล่นอย่างต่อเนื่องและมีนักเตะบาดเจ็บ ดังนั้นคนที่ได้ลงแข่งขันจึงภาคภูมิใจเป็นอย่างมากกับผลงานในช่วงครึ่งหลัง พวกเขาเหนื่อยล้ามานานแล้ว แต่ฟุตบอลไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเหนื่อยล้าเพราะมันเป็นการทำงานและวิธีการเล่นของแต่ละคน เรามีเวลาพักเพียงแค่ไม่กี่วันก่อนจะต้องแข่งขันอีก 7 เกมในลีกและการแข่งขันแชมป์เปียนลีก เราจะเดินหน้าต่อและคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ
ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก : https://footballhits98.com