ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้จะมีการจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่ดุเดือดมากที่สุดอีกคู่หนึ่งนั่นก็คือแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมทช์ นัดพบกันระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดนั่นเอง คืนนี้จะเป็นการแข่งขันนัดหยุดโลกอย่างแน่นอนเพราะแมนซิตี้นั้นเต็มไปด้วยนักเตะมากฝีมือแบบไร้ข้อกังขา ในขณะที่แมนยูก็ไม่ใช่ทีมเคี้ยวง่ายเหมือนกับฤดูกาลที่ผ่านมาอีกต่อไป เราจึงแทบจะไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าสุดท้ายแล้วใครที่จะสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้สำเร็จ ด้วยเหตุนี้เราจึงจะมาทุกคนมาดูกันว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
1. แพ้ปุ๊บเป็นสถิติปั๊บ แมนยูเป็นสโมสรใหญ่โดยเฉพาะในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เป็นทีมที่แข็งแกร่งจนแทบจะไม่สามารถคว้าชัยชนะเหนือพวกเขาได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็มีอยู่ 2 ทีมที่พวกเขาต้องพ่ายแพ้ให้มากที่สุดนั่นก็คือลิเวอร์พูลและเชลซีด้วยจำนวน 18 ครั้งเท่ากัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามหากแมนยูพ่ายแพ้ให้กับแมนซิตี้ แมนซิตี้ก็จะกลายมาเป็นทีมที่ 3 ที่อยู่ในสถิติในทันที
2. การลุ้นแฮตทริกของแมนซิตี้ หลายปีที่ผ่านมานี้แมนซิตี้เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามแถมยังมีผลงานโดยรวมที่ดูดีกว่าทีมคู่แข่งร่วมเมืองอีกด้วย หากในวันอาทิตย์นี้พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จราชการเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่พวกเขาสามารถคว้าชัยชนะเหนือทีมคู่อริร่วมเมืองได้ 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2013 ได้สำเร็จ
3. แมนยูกับเอติฮัด สเตเดี้ยม ปกติแล้วเราจะมองว่าทีมที่ได้แข่งในบ้านของตนเองนั้นเป็นทีมที่ได้เปรียบ แต่ในความเป็นจริงแล้วสำหรับแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปแต่อย่างใด นับตั้งแต่ที่มีการจัดการแข่งขันพรีเมียร์ลีก มีสูงถึง 21 ครั้งเลยทีเดียวที่ทีมเยือนสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จ หากนับตั้งแต่ที่แมนซิตี้ใช้เอติฮัด สเตเดี้ยมเป็นสนามเหย้า แมนยูสามารถคว้าสามแต้มในสนามดังกล่าวไปได้ถึง 9 ครั้งเลยทีเดียวจากการแข่งขันทั้งหมด 19 ครั้ง
4. อาถรรพ์ครั้งแรกของกุนซือ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงสำหรับประเด็นเรื่องอาถรรพณ์กุนซือแมนยู เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาต้องคุมทีมพบกับคู่อริร่วมเมืองอย่างแมนซิตี้เป็นครั้งแรกย่อมเผชิญกับความพ่ายแพ้อยู่เป็นประจำ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ติดต่อกันมาแล้วถึง 5 สมัย ครั้งสุดท้ายที่กุนซือสามารถพาทีมคว้าชัยชนะเหนือแมนซิตี้จากการพบกันเป็นครั้งแรกได้สำเร็จก็คือเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันในปี 1987 กันเลยทีเดียว
ติดตามข่าวกีฬา :: เว็บข่าวกีฬา